“ราชทัณฑ์” เผยยอดผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดเพิ่ม 459 ราย เสียชีวิต 1 ราย

“ราชทัณฑ์” เผยยอดโควิด-19 ภาพรวมสถานการณ์ดีขึ้น พื้นที่การระบาดอยู่ในวงจำกัด มาตรการแยกกักโรคยังได้ผลดี

วันนี้ (18 มิ.ย.64) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 น.) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 459 ราย รักษาหายวันนี้ 86 ราย เสียชีวิต 1 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 6,676 ราย

ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ ยังคงพบเรือนจำ/ทัณฑสถานที่เป็นเรือนจำสีขาวคือไม่พบการแพร่ระบาดคงที่ จำนวน 129 แห่ง และสีแดงที่พบการแพร่ระบาด 12 แห่งคงเดิม ขณะที่จำนวนผู้รักษาหายวันนี้อยู่ที่ 86 ราย รวมหายป่วยสะสม 27,323 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ เป็นการตรวจพบเชื้อจากการ SWAB หาเชื้อซ้ำในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่เป็นเรือนจำสีแดง 458 ราย และในห้องแยกกักโรคของเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด 1 ราย แนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ของแต่ละเรือนจำ/ทัณฑสถานเริ่มลดลง และอยู่ในวงจำกัด

โดยพบการติดเชื้อจากระบบกักโรคของเรือนจำ/ทัณฑสถานบางแห่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของห้องกักโรคที่ทำงานได้ดี มีเพียงทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางที่ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นกลุ่มก้อน จากการเร่งตรวจคัดกรองเชิงรุก จึงอาจมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้ในช่วงนี้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเร่งคัดแยกผู้ติดเชื้อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที และให้เรือนจำ/ทัณฑสถานกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้อย่างรวดเร็ว ควบคู่กับแผนปลดสถานะเรือนจำสีแดงเป็นเรือนจำสีขาวที่ต้องรับรองผลการไม่พบเชื้อแบบ 100%

นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า กรมราชทัณฑ์ ยังคงเน้นย้ำการรักษามาตรฐานการกักกันโรคอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาด โดยได้กำชับให้เรือนจำ/ทัณฑสถานป้องกันเชื้อที่อาจจะถูกนำเข้าผ่าน 3 ทาง คือ 1.เจ้าหน้าที่ 2.ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ และ 3.ในผู้ต้องขังเข้าใหม่ ที่ต้องแยกการกักกันโรคออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ส่วนแก้มลิง เพื่อรองรับผู้ต้องขังเข้าใหม่ที่อยู่ระหว่างรอผล SWAB หาเชื้อก่อนเข้าห้องกักโรค และ 2.ส่วนห้องกักโรค เพื่อกักตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 21 วัน และต้อง SWAB หาเชื้อซ้ำอีกครั้งในวันที่ 19 ของการกักตัว ก่อนออกจากห้องกักโรค โดยผู้ต้องขังที่ตรวจพบเชื้อในการ SWAB แต่ละครั้ง จะถูกส่งต่อการรักษาไปยังโรงพยาบาลภายนอก ไม่นำเข้ารักษาภายในเรือนจำ/ทัณฑสถาน

สำหรับผู้เสียชีวิต 1 รายในวันนี้ เป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 42 ปี จากทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง มีโรคประจำตัว และมีประวัติเชื้อราในเยื่อหุ้มสมอง เข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2564 แพทย์ได้ให้การรักษาด้วยยา Favipiravir ตรวจพบภาวะปอดอักเสบ ผู้ป่วยมีอาการซึมลง ไม่รู้สึกตัว วัดสัญญาณชีพไม่ได้ ซึ่งผู้ป่วยได้แสดงเจตนาล่วงหน้า ว่าขอจากไปตามวิถีธรรมชาติโดยไม่ให้มีการยื้อชีวิตตนเอง ซึ่งญาติได้รับทราบ จนกระทั่งในวันที่ 17 มิถุนายน 2564 ผู้ป่วยได้จากไปอย่างสงบ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ประสานญาติ และดำเนินการตามกระบวนการส่งศพของผู้เสียชีวิต เพื่อนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอย่างปลอดภัย ตามวิธีการจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นที่เรียบร้อย

Related posts