วันนี้ (28 มิ.ย.64) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 น.) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 9 ราย รักษาหายวันนี้ 1,129 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 3,264 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
สถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ มีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการแพร่ระบาด จำนวน 125 แห่ง ลดลง 1 แห่ง จากการตรวจพบผู้ต้องขังแดนในติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร ส่งผลให้เรือนจำสีแดงที่พบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นเป็น 14 แห่ง โดยรายงานผู้ติดเชื้อในวันนี้ เป็นการติดเชื้อจากแดนในของเรือนจำสีแดง จำนวน 8 ราย และการตรวจพบเชื้อในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 1 ราย จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ขณะที่จำนวนผู้ป่วยรักษาหายยังมากกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อเนื่อง รวมรักษาหายสะสม 32,454 ราย หรือ 90% ของผู้ป่วยสะสม โดยมีเรือนจำพิเศษธนบุรี ที่ผู้ติดเชื้อได้รับการรักษาจนหายทั้งหมด ไม่มีผู้ติดเชื้อในเรือนจำ ส่วนสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ มีทั้งสิ้น 3,264 ราย เป็นผู้ป่วยสีเขียว 2,831 ราย หรือ 86.75% สีเหลือง 409 ราย หรือ 12.5% และสีแดง 24 ราย หรือ 0.75% ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นมีจำนวน 40 ราย หรือ 0.1% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (21-27 มิถุนายน 2564) มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งสิ้น 759 ราย ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 2,620 ราย หรือเกือบ 4.5 เท่า ส่วนใหญ่เป็นการพบเชื้อจากเรือนจำกลางสงขลา ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง และทัณฑสถานหญิงสงขลา ขณะที่มีจำนวนผู้หายป่วยรวม 2,640 ราย มากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 3.5 เท่า โดยในระยะ 10 วันที่ผ่านมา มีเรือนจำสีแดงไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3 แห่ง คือ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำจังหวัดสงขลา และเรือนจำจังหวัดนนทบุรี
ส่วนเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ได้รับการลดสถานะจากเรือนจำสีแดงและอยู่ระหว่างการปรับสถานะเป็นสีขาว 3 แห่ง คือ ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง เรือนจำกลางเชียงใหม่ และเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งพบว่าแนวโน้มสถานการณ์เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑลที่ลดลง มีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายลงในหลายพื้นที่ แต่ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และระมัดระวังอย่างเข้มข้นในทุกจุดอยู่เสมอ ในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ยังไม่พบการแพร่ระบาด ให้เตรียมความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการป้องกันเชื้อเข้าสู่เรือนจำ/ทัณฑสถานชั้นใน ที่ต้องดำเนินการคัดกรองเชื้อแบบ 100% ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่และครอบครัว ที่ต้องขอความร่วมมือในการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ งดเว้นการเดินทางเข้าสถานที่เสี่ยง และการปฏิบัติตามมาตรฐานการป้องกันโรคในผู้ต้องขังเข้าใหม่อย่างเคร่งครัด รวมถึงระบบการรักษาความสะอาด และสุขอนามัยในเรือนจำ/ทัณฑสถาน โดยนำแนวทางการปฏิบัติของโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่จะช่วยให้ระบบสาธารณสุขเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น