“สมศักดิ์” เตรียมพร้อมใช้ กม. JSOC ป้องกันทำผิดซ้ำ เร่งทำบัญชีบุคคลอันตรายใส่กำไลอีเอ็ม

“สมศักดิ์” ชม นิทรรศการกฎหมายป้องกันทำผิดซ้ำ ชี้ เตรียมพร้อมใช้กับบุคคลอันตราย “สมคิด พุ่มพวง-ไอซ์ หีบเหล็ก” เร่งจัดทำบัญชีบุคคลอันตราย ใส่กำไลอีเอ็ม หลังพ้นโทษ 10 ปี แจง ปล่อยตัว “ครรชิต” ยังไม่พบผิดปกติ แต่สั่งตั้งกรรมการสอบเชิงลึก หากคำนวนผิด 3-6 เดือน โดนสองเด้ง “กลับเข้าคุก-ใส่กำไลอีเอ็ม” ตามกฎหมายใหม่ด้วย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 ต.ค.65 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.ยุติธรรม น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายธนวัชร นิติกาญจนา ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม และ อธิบดีกรมต่างๆ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการ “ทุกครอบครัวและสังคมต้องปลอดภัย ด้วยกฎหมาย JSOC” ที่กระทรวงยุติธรรม โดยได้มีการนำคดีดังในอดีต ที่เข้าข่ายต้องถูกเฝ้าระวังหลังพ้นโทษ มาแสดง เช่น คดี นายสมคิด พุ่มพวง , ไอซ์ หีบเหล็ก รวมถึงผู้ที่ติดยาเสพติดและมีพฤติกรรมทำร้ายผู้อื่นจนเสียชีวิตด้วย

โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ กรมคุมประพฤติ ได้มานำเสนอ พ.ร.บ.มาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง หรือ กฎหมาย JSOC เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม สำหรับการดำเนินการเฝ้าระวังบุคคลอันตราย หลังพ้นโทษ ในคดี 3 กลุ่ม คือ ทางเพศ ฆ่าผู้อื่น และเรียกค่าไถ่ ซึ่งกฎหมายนี้ ได้เกี่ยวข้องกับกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องนำกลุ่มบุคคลอันตราย ที่ยังอยู่ในเรือนจำ เข้าสู่การบำบัดฟื้นฟูทางการแพทย์ และหลังพ้นโทษ ก็จะมีการเฝ้าระวังด้วยการใส่กำไลอีเอ็ม อีกไม่เกิน 10 ปี โดยหลายคดีที่นำมาจัดนิทรรศการ ก็จะต้องถูกเฝ้าระวังตามกฎหมายป้องกันกระทำผิดซ้ำด้วย ซึ่งในอดีตเมื่อพ้นโทษ จะไม่มีการเฝ้าระวัง

“ที่สังคมให้ความสนใจอยู่ตอนนี้ คือ ผู้ติดยาเสพติด เกิดอาการหลอนแล้วก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนอื่นนั้น ผมก็ขอย้ำว่า คนกลุ่มนี้ ก็จะถูกเฝ้าระวังด้วยการใส่กำไลอีเอ็มด้วย จึงอยากให้ประชาชน เกิดความมั่นใจว่า กระทรวงยุติธรรม ได้เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังบุคคลอันตราย เพื่อช่วยทำให้สังคมเกิดความปลอดภัย ใช้ชีวิตกันได้ตามปกติ ไม่ต้องหวาดระแวง โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง” รมว.ยุติธรรม กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มบุคคลอันตราย ขณะนี้ เราได้มีการจัด Watchlist เป็น 3 กลุ่ม คือ Watchlist 1 กลุ่มผู้พ้นโทษ ออกจากเรือนจำ จำนวน 132 คน ซึ่งขณะนี้ กฎหมายยังไม่มีผลบังคับใช้ ทำให้กรมคุมประพฤติ ทำได้แค่เยี่ยมเยียนเท่านั้น ส่วน Watchlist 2 กลุ่มที่กำลังจะออกจากเรือนจำ จำนวน 27 คน และ Watchlist 3 กลุ่มที่กำลังจะเข้าเรือนจำ จำนวน 52 คน ซึ่งกลุ่มนี้ จะมีการขอให้ใช้กฎหมายใหม่ ในสำนวนด้วย

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าว ยังได้สอบถามถึงกรณี การปล่อยตัวนายครรชิต ทับสุวรรณ อดีตส.ส.สมุทรสาคร ที่ถูกจำคุกตลอดชีวิต แต่ติดคุกจริงเพียง 7 ปีเท่านั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กรณีนายครรชิต ได้ถูกปล่อยตัวไปแล้ว ก่อนกฎหมายป้องกันกระทำผิดซ้ำ มีผลบังคับใช้ แต่ก็ยังถูกจัดอยู่ใน Watchlist 1 เพราะมีพฤติกรรมรุนแรง ซึ่งตนต้องขอขอบคุณนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ที่นำเรื่องนี้มาตั้งข้อสังเกต โดยตน ก็ได้มีการสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ ตั้งกรรมการสอบในเชิงลึก ภายใน 1 สัปดาห์ แต่เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น การปล่อยตัวนายครรชิต ยังไม่พบการผิดปกติ เพราะการเลื่อนชั้นผู้ต้องขัง ก็เป็นไปตามเกณฑ์ปกติ

“แต่หากมีการตรวจสอบเชิงลึกของกรรมการตรวจสอบ แล้วพบว่า มีการคิดคำนวนผิดพลาดไป 3-6 เดือน นายครรชิต ก็ต้องถูกเรียกกลับเข้าเรือนจำ รวมถึงยังต้องถูกใส่กำไลอีเอ็ม หลังพ้นโทษอีก 10 ปี ตามกฎหมายป้องกันทำผิดซ้ำ ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ด้วย แต่หากคำนวนไม่ผิด นายครรชิต ก็ยังถูกจัดอยู่ใน กลุ่ม Watchlist 1 ที่ต้องถูกเฝ้าระวังอยู่” รมว.ยุติธรรม กล่าว

Related posts