ตำรวจภูธรภาค 1 จับกุมทีมลำเลียงยาเสพติด ทีมโกดังในหัว กระจายยาเสพติดลงภาคใต้ ยึดยาบ้า 1,800,000 เม็ด มูลค่ากว่า 54 ล้านบาท
วันนี้ (26 ส.ค.67) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1, นายนิยม ช่างพินิจ ผู้ช่วยเลขานุการ รมต.มท., นางจีระพรรณ กาญจนประดิษฐ์ ผอ.ปปส.ภาค 1, พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก.นสศ. ร่วมแถลงการจับกุม นายธวัชชัยหรือแอม และ น.ส.รัตนาหรือหญิง พร้อมของกลางยาบ้า 1,800,000 เม็ด และรถยนต์ 1 คัน (ใช้ในการกระทำผิด) มูลค่ากว่า 54 ล้านบาท
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่า นายธวัชชัยหรือแอม และ น.ส.รัตนาหรือหญิง เครือข่ายลำเลียงยาเสพติด “โกดังนายหัว” ได้ร่วมกันเช่าโกดังเก็บสินค้าไว้ในพื้นที่ จ.นนทบุรี เพื่อเป็นที่พักยาเสพติดที่ลำเลียงมาจากชายแดนทางภาคเหนือ และเตรียมการลำเลียงลงสู่พื้นที่ภาคใต้ จึงทำการติดตามความเคลื่อนไหวกลุ่มผู้กระทำผิดมาโดยตลอด
ต่อมาในวันที่ 24 ส.ค.67 สืบทราบว่ากลุ่มผู้กระทำผิดได้เดินทางไปรับยาเสพติดจากกลุ่มผู้ลำเลียงที่ลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ภาคกลาง โดยจะใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีเทา เป็นยานพาหนะในการเดินทางไปรับยาเสพติด และกำลังจะนำมาซุกซ่อนไว้ที่บริเวณโกดังเก็บสินค้าเลขที่ 46 หมู่ 1 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงกระจายกำลังเพื่อคอยจับกุม จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบรถที่ใช้ในการลำเลียงยาเสพติดคันดังกล่าวขับมาจอดบริเวณโกดัง จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 1,800,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว โดยมี นายธวัชชัยหรือแอม และ น.ส.รัตนาหรือหญิง อยู่ภายในรถ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนในข้อหากระทำผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”
การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่ากว่า 54,000,000 บาท (ห้าสิบสี่ล้านบาท) และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป