แพ้ราบคาบ! ศาลยกฟ้อง ‘ทนายตั้ม’ หมิ่น EXP ชี้ปกป้องสิทธิผู้เยาว์

ศาลยกฟ้อง ทนายตั้ม หมิ่นประมาท ค่ายเพลงดัง EXP Entertainment ชี้เป็นการปกป้องสิทธิให้ผู้เยาว์

จากกรณีที่ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมด้วย นายนรากร อิสระวรางกูล หรือน้องพอร์ส วง Yes Indeed ได้แถลงข่าว ยกเลิกสัญญากับทางบริษัท เอ็กซ์พีเรียนซ์ เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ค่ายเพลง EXP Entertainment ก่อนที่นายวงศพัทธ์ รติพัชรพรกุล ซีอีโอของค่ายเพลง EXP จะแต่งตั้งทนายนิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ ดำเนินการยื่นฟ้อง ทนายตั้ม ในข้อหา หมิ่นประมาท ต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 โดยกล่าวหาว่า ให้ข่าวเท็จไม่เป็นความจริง ทำให้ EXP เสียหาย

ล่าสุด ทนายตั้ม ได้ออกมาเปิดเผยคำตัดสินในคดีนี้ว่า ค่าย Exp Entertainment แพ้คดีทนายตั้มราบคาบทุกประเด็น!! เมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 น้องพอร์ส วงYes Indeed มาปรึกษาว่าติดสัญญากับค่าย Exp และรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบ ทนายตั้ม จึงยื่นมือเข้าไปช่วยมีการทำหนังสือบอกเลิกสัญญา เพราะมองว่าสัญญานี้อาจจะเอาเปรียบผู้เยาว์ และได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว และโพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก ปรากฏว่าค่าย Exp จ้างทนายนิด้า มาฟ้องที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ในข้อหา หมิ่นประมาท กว่า 9 ประเด็น วันนัดพิจารณาก็นัดสื่อ นัดออยศรี มาเย้ว ๆ ในบังลังก์

แต่วันนี้ (27 ก.ย.67) ศาลมีคำพิพากษาแล้ว ว่ายกฟ้องทุกประเด็น ทุกข้อกล่าวหา ซึ่งคำพิพากษาน่าสนใจ พอนำมาเป็นวิทยาทานให้กับคนที่ถูกกลั่นแกล้งฟ้องคดีอุดปาก หรือทนายความที่กำลังหาแนวทางสู้คดี ซึ่งถ้าเป็นการวิจารณ์โดยสุจริต ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งสิ้น

ประเด็นแรก ที่แถลงข่าวว่าสัญญาที่ค่าย Exp ทำกับน้องพอร์ส เป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ทำให้ผู้เยาว์เสื่อมเสีย เป็นการให้ความเห็นทางกฎหมาย ที่นักกฎหมายสามารถกระทำได้ เนื่องจากสัญญาดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าค่ายจะให้สิทธิประโยชน์กับผู้เยาว์เท่าใด

ประเด็นที่ 2 ตนเองเป็นทนายความ และรับมอบอำนาจจากพ่อน้องพอร์สให้แถลงข่าว ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย สามารถป้องกันลูกความ ได้ตามครรลองคลองธรรม ซึ่งเป็นการกระทำเพื่อความชอบธรรม

ประเด็นที่ 3 ที่แถลงข่าวว่าค่าย Exp รับปากกับน้องพอร์ส ว่าหากทำสัญญากับบริษัทฯ จะมีการฝึกฝนให้ร้องเพลงได้ดียิ่งขึ้น จะช่วยพัฒนาบุคลิกภาพ และหาที่เรียนต่อให้ ข้อความนี้ไม่ใช่ความเท็จ มันคือเรื่องจริง

ประเด็นที่ 4 ที่แถลงข่าวว่า ค่าย Exp ไม่มีการโปรโมตน้อง ๆ ซึ่งวง Yes Indeed ดังมาด้วยตัวเอง จากการไปเล่นดนตรีเปิดหมวก พอน้องดังจึงจะมาถือสิทธิในตัวน้อง ค่าย Exp พยายามสืบพยานว่ามีการโปรโมตแล้ว ซึ่งได้หักล้างว่าไม่มีการโปรโมตมาก่อน ประเด็นนี้ศาลไม่ถือว่าสิ่งที่ค่ายทำ ไม่ใช่การเผยแพร่ ให้น้องพอร์สเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง ดังนั้น ข้อความที่แถลงก็ไม่ใช่ความเท็จอีกเช่นกัน

ประเด็นที่ 5 ที่แถลงว่าพอน้องดังมีคนจ้างงาน ทางค่ายก็ไปเรียกเก็บเงินจากห้าง ๆ หนึ่ง ซึ่งจ้างน้องแสดงจำนวน 3 หมื่นบาท ถ้าไม่จ่ายค่ายก็จะไม่ให้ขึ้นแสดง ศาลได้พิจารณาหลักฐานแชตแล้ว เชื่อว่าตอนแรกค่ายได้เรียกเก็บเงินจากห้างเป็นจำนวน 3 หมื่นบาทจริง

ประเด็นที่ 6 ที่แถลงข่าวว่าการที่ค่าย Exp ทำสัญญาให้น้องมาร้องเพลง แต่กลับเอาน้องไปใส่กางเกงในบ็อกเซอร์โฆษณา แล้วโพสต์คลิปลงยูทูป ในทางนำสืบก็ปรากฏว่าค่าย Exp ให้น้องพอร์สทำจริง ทำให้น้อง และครอบครัวไม่พอใจอย่างมาก

ประเด็นที่ 7 ที่แถลงว่ามีศิลปินดังได้แต่งเพลงให้น้องพอร์สแล้ว แต่ค่ายไม่อนุมัติ ทำให้น้องพอร์สไม่มีเพลงของตัวเองสักที ซึ่งมีหลักฐานแชตไลน์ระหว่างศิลปินดังคนดังกล่าว กับน้องพอร์ส มายืนยันว่าทนายตั้ม สุจริต เพราะมันคือเรื่องจริง

ประเด็นที่ 8 ที่แถลงว่าทางค่าย Exp เอาประโยชน์กับตัวน้องพอร์ส เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีคนรู้จักค่ายนี้ แต่คนรู้จักวง Yes Indeed ทางค่ายเลยให้น้องพอร์สไลฟ์ TikTok โดยเชื่อมการถ่ายทอดกับค่าย Exp เพื่อให้คนกดติดตามค่ายเพิ่มขึ้น ประเด็นนี้พนักงานบริษัทฯ ก็ยอมรับในศาลว่า ค่ายได้ให้น้องพอร์สทำจริง

ส่วนประเด็นสุดท้าย ที่แถลงว่าทางค่าย Exp ไม่เคยสนับสนุนอุปกรณ์ดนตรีที่น้องไปเล่นเปิดหมวกเลย น้อง ๆ ต้องหาอุปกรณ์ หาทุนเอง ในทางนำสืบของโจทก์ ก็ไม่มีการสนับสนุนอุปกรณ์จริง

ด้วยเหตุทั้งหมด ทนายตั้ม ได้ยกข้อต่อสู้ว่า สิ่งที่ค่ายทำ จะทำให้เสื่อมเสียแก่ผู้เยาว์ ไม่มีเรื่องไหนที่แถลงเรื่องเท็จเลยสักเรื่อง ตนเองแค่รักษาสิทธิให้ผู้เยาว์ ศาลจังหวัดนนทบุรีจึงมีคำพิพากษาว่า จำเลยได้กระทำโดยสุจริต เพื่อความชอบธรรม ป้องกันส่วนได้เสียตามคลองธรรม จึงไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท และไม่มีความผิดฐานดูหมิ่นโจทก์ จึงพิพากษายกฟ้องทุกประเด็น ทุกข้อหา!

 

 

Related posts