“กรมคุก” สั่งเข้มมาตรการป้องกัน หวังสกัดเชื้อไม่ให้ระบาดในเรือนจำสีขาว

 

“อธิบดีกรมราชทัณฑ์” เผย ผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 37 ราย รักษาหายเพิ่ม 163 ราย หายแล้ว 94.7% เรือนจำคลองเปรมเสียชีวิต 2 ราย สั่งเข้มมาตรการป้องกัน หวังสกัดเชื้อไม่ให้ระบาดในเรือนจำสีขาว

วันนี้ (6 ก.ค.64) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 5 ก.ค.64 เวลา 16.00 น.) พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 37 ราย รักษาหายเพิ่ม 163 ราย เสียชีวิต 2 ราย รวมมีผู้ต้องติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 1,621 ราย

นายอายุตม์ เปิดเผยว่า ภาพรวมสถานะของเรือนจำสีแดงและสีขาวยังคงที่ มีเรือนจำสีขาวที่ไม่พบการระบาด 122 แห่ง และเรือนจำสีแดงที่พบการระบาด 11 แห่ง โดยวันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จากแดนในของเรือนจำสีแดง 16 ราย และในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 21 ราย มีผู้ป่วยที่รักษาหายเพิ่ม 163 ราย รวมหายสะสม 34,929 ราย หรือ 94.7% ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 36,855 ราย มีผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างรักษารวม 1,621 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว 64.8% สีเหลือง 34.2% และสีแดง 1% มีผู้เสียชีวิต 2 ราย รวมสะสม 46 ราย หรือ 0.1% ของผู้ติดเชื้อสะสม

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย เป็นผู้ต้องขังชายจากเรือนจำกลางคลองเปรม เข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราช ทัณฑ์และเสียชีวิตในวันที่ 4 ก.ค.ทั้งคู่

รายแรก อายุ 40 ปี มีโรคประจำตัว ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย X-ray พบปอดอักเสบ ให้การรักษาด้วยยา Favipiravir Dexamethasone ยาปฏิชีวนะระดับสูง ยารักษาโรคประจำตัว และ ออกซิเจนความเข้มข้นสูง HFNC ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยมาก ได้ประสานญาติวางแผนการรักษา พิจารณารักษาแบบประคับประคอง จนกระทั่งเสียชีวิต

ส่วนรายที่ 2 อายุ 38 ปี ประวัติเคยรักษาโรคเกี่ยวกับปอด X-ray พบปอดอักเสบ ให้การรักษาด้วยออกซิเจน HFNC Favipiravir Dexamethasone และยาปฏิชีวนะระดับสูง จนกระทั่งในวันที่ 4 ก.ค. ผู้ป่วยซึมลง วัดสัญญาณชีพไม่ได้CPR ใส่ท่อช่วยหายใจ ยากระตุ้นหัวใจ ผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาและเสียชีวิต ในเวลาต่อมา กรมราชทัณฑ์ ขอแสดงความเสียใจแก่ญาติและครอบครัวของผู้ต้องขังต่อการสูญเสียในครั้งนี้ด้วย

นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้นอกจากการค้นหาผู้ติดเชื้อให้เข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างรวดเร็ว การแยกกักกลุ่มเสี่ยง กลุ่มเปราะบาง และควบคุมโรคในเรือนจำสีแดงที่ยังคงดำเนินการต่อเนื่อง อย่างเป็นระบบแล้ว ยังต้องรักษามาตรการป้องกันเชื้อของเรือนจำสีขาวอย่างเคร่งครัด ทั้งการเตรียม แผนเผชิญเหตุ การเตรียมพื้นที่สร้างโรงพยาบาลสนามเรือนจำในกรณีที่เกิดการระบาด และมาตรการกักตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกราย รวมถึงมาตรฐานด้านสุขอนามัยภายในเรือนจำและทัณฑสถาน ซึ่งต้องดำเนินการให้ได้ ครบถ้วน 100% ในทุกกระบวนการ เพราะหากเชื้อสามารถเล็ดลอดเข้าสู่แดนในได้แล้วจะควบคุมสถานการณ์ได้ลำบาก รวมถึงการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมผู้ต้องขังทุกรายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน และปัจจุบันอยู่ระหว่างประสานกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อเข้ารับวัคซีนอย่างต่อเนื่องต่อไป

Related posts