วันนี้ (20 ส.ค.64) นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ ขอเรียนชี้แจงและทำความเข้าใจต่อสังคมจากกรณีสื่อสังคมออนไลน์แชร์ข้อความเรื่องการรักษาของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ที่ติดเชื้อโควิด-19 และเข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ วันที่ 16 สิงหาคม 2564 ว่า อาการแรกรับผู้ป่วยรู้ตัวดี ช่วยเหลือตัวเองได้ สัญญาณชีพปกติ ค่าออกซิเจนปลายนิ้ว 97% รับตัวในหอผู้ป่วยโควิด เพื่อสังเกตอาการใกล้ชิดและเริ่มยา Favipiravir เนื่องจากผู้ป่วยน้ำหนักตัวมากกว่า 90 กิโลกรัม ผลเอกซเรย์ปอด วันที่ 16 สิงหาคม 2564 พบมีฝ้าที่ชายปอดขวาเล็กน้อย และเอกซเรย์ปอดวันที่ 18 สิงหาคม 2564 หลังให้การรักษาผลลดลงจากเดิม ผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบ แพทย์มีการปรับ การใช้ยาพ่นโดยแพทย์เจ้าของไข้ ซึ่งเป็นยาพ่นโรคหอบพื้นฐานมิได้มีการให้ยาผิดพลาดแต่ประการใด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจอยู่ในเกณฑ์ปกติ
อาการผู้ป่วยในวันนี้พบว่า ผู้ป่วยรู้สึกตัวดี ไม่มีไข้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย มีอาการไอ มีเสมหะเล็กน้อย อัตราการหายใจ 20 ครั้ง/นาที อัตราการเต้นของชีพจร 68 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต 108/53 มิลลิเมตรปรอท ค่าออกซิเจนปลายนิ้ว 98% รับประทานอาหารได้ สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เอง จมูกได้กลิ่น และลิ้นรับรสได้ปกติ นอนพักหลับได้ปกติ แพทย์ให้การรักษาด้วยยา Favipiravir ร่วมด้วยกับยาพ่นโรคหอบ ยารักษาตามอาการและสังเกตอาการใกล้ชิด เพื่อพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
ในส่วนของหอผู้ป่วยมี อสรจ.เป็นผู้ช่วยเหลือที่ผ่านการอบรมตามหลักสูตรแล้ว กรณีชุดผู้ป่วย หอผู้ป่วยจะมีชุดให้เปลี่ยนเพียงพอทุกวัน โดยผู้ป่วยได้มีการเปลี่ยนกางเกงทุกวัน ผู้ป่วยจะไม่สวมเสื้อเกือบตลอดเวลาที่อยู่ในหอผู้ป่วย โดยหอผู้ป่วยจะมีการดูแลและสนับสนุนอุปกรณ์ของใช้จำเป็นสำหรับผู้ป่วยทุกรายเป็นปกติ
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่า ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีภารกิจหลักในการให้บริการทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขแก่ผู้ต้องขังด้วยทีมแพทย์และพยาบาล ตลอดจนเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์ตามมาตรฐานสาธารณสุขของรัฐ จึงขอให้ญาติผู้ต้องขังและสังคมเชื่อมั่นในระบบบริการสุขภาพผู้ต้องขังที่พร้อมดูแลด้านสุขภาพและจะทำการรักษาเพื่อให้เกิดผลดีที่สุดแก่ผู้ต้องขังทุกคนอย่างเต็มที่ เท่าเทียมและไม่มีการเลือกปฏิบัติ ขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อข่าวหรือข้อความที่เป็นเท็จ โดยมิได้ตรวจสอบความจริงก่อน กรมราชทัณฑ์ ยังคงดำเนินการถือปฏิบัติตามระเบียบและข้อกฎหมายอย่างชัดเจน มิได้ดำเนินการตามที่เป็นข้อความอยู่ในโลกโซเชียลแต่อย่างใด