บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด เปิดตัวแบรนด์ “อมาไพร” ส่ง อมาไพร น้ำมันเมล็ดกัญชง พลัส (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) สู่ตลาดรายแรกในประเทศไทย ส่งสุขภาพดีถึงกลุ่มเป้าหมายที่รักสุขภาพ ชูแนวคิด “ธรรมชาติโภชนา” สำหรับคนชอบอาหารเสริมที่เป็นวีแกน และยังขานรับนโยบายรัฐเปลี่ยน “กัญชง” เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของภาครัฐ ตั้งเป้ากวาดยอดขาย 120 ล้านบาท
จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการขออนุญาต และการอนุญาตผลิตนำเข้า ส่งออกจำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะกัญชง พ.ศ. 2563 เปลี่ยนจากกัญชงให้พ้นยาเสพติดเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ จะมีการพัฒนาและวิจัยกัญชงที่จะใช้ในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ ทำยา สมุนไพร อาหาร เครื่องสำอาง เพราะกัญชงออกฤทธิ์กลุ่มเดียวกันกับกัญชา
ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ได้ผลักดันกัญชงให้เป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ เพราะมีคุณสมบัติเป็นยาบำรุงโลหิต ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น และรักษาอาการปวดศีรษะ ขณะที่เปลือกและลำต้นเป็นเส้นใย เนื้อสามารถผลิตกระดาษได้ แกนนำไปทำเป็นพลังงานชีวมวล ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ออกกฎกระทรวงเพื่อแก้ไขกฎกระทรวงเดิมที่มีความเข้มงวด โดยกฎหมายใหม่นั้นมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติในการสร้างรายได้และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในการพัฒนาประเทศ และเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของคณะรัฐมนตรีในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรและพัฒนานวัตกรรมด้านการเกษตร ข้อมูลอ้างอิงงานวิจัยของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้ประมาณการมูลค่าอุตสาหกรรมกัญชงของไทยไว้ ณ กรกฎาคม 2564 หลังจากการปลดล็อคการประกอบธุรกิจกัญชงได้เชื่อมโยงไปสู่ห่วงโซ่อุตสาหกรรม 5 กลุ่ม ได้แก่ เครื่องดื่ม อาหาร ยาและอาหารเสริม เครื่องแต่งกาย และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ด้วยมูลค่าตลาดกัญชงรวมประมาณ 15,800 ล้านบาท และใน 5 ปีข้างหน้าหรือสิ้นปี 2568 จะเติบโตเฉลี่ย 126% ต่อปี
นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำ เปิดเผยว่า อมาโด้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในตลาดสมุนไพรกัญชง และเพื่อเพิ่มแนวทางและจุดแข็งของธุรกิจจึงนำแนวคิด “ธรรมชาติโภชนา” มาเสริมจุดแข็งความเป็นผู้นำตลาดวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เราจึงพร้อมเปิดตัวสินค้าใหม่ในหมวดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกลุ่มสมุนไพรตอบโจทย์ “ธรรมชาติโภชนา” ซึ่งเน้นสินค้าที่มีส่วนประกอบมาจากธรรมชาติ โดยเปิดตัวภายใต้แบรนด์ “อมาไพร” มีที่มาจาก อมาโด้ + สมุนไพร ประเดิมสินค้า SKU แรกของแบรนด์ คือ อมาไพร น้ำมันเมล็ดกัญชง พลัส (Amaprai Hemp Seed Oil Plus) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากกัญชงตัวแรกของประเทศไทยที่มีการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ อมาไพร น้ำมันเมล็ดกัญชง พลัส ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีน้ำมันเมล็ดกัญชงเป็นส่วนประกอบหลัก เสริมประสิทธิภาพให้มากขึ้นด้วยน้ำมันจากธรรมชาติอีก 9 ชนิด ที่ผ่านกระบวนการสกัดเย็นทำให้คงคุณค่าของวิตามินต่าง ๆ อย่างครบถ้วน สำหรับประโยชน์ของน้ำมันเมล็ดกัญชงนั้นมีกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3, 6 และ 9 จัดเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย จับกลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และตอบโจทย์โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการบำรุงระบบประสาทและสมอง บำรุงกระดูกและข้อ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ
อย่างไรก็ตามเนื่องจากมีข้อจำกัดด้านเวลาปลูกต้นกัญชงนานถึง 3-5 เดือน และขั้นตอนการเก็บเกี่ยว สกัดวิเคราะห์ และผลิตกว่า 45 วัน ทำให้มีสินค้าพร้อมจำหน่ายในล็อตแรกเพียง 10,000 กล่องเท่านั้น โดยเรามีแผนการจัดจำหน่ายผ่าน 3 ช่องทางหลัก คือ 1.) ตัวแทนจำหน่ายอมาโด้ จำนวน 11.94 ล้านบาท คิดเป็น 60% 2.) เทเลเซลล์ 5.97 ล้านบาท จำนวน คิดเป็น 30% และ 3.) ช่องทางออนไลน์ของบริษัททั้งโซเชียลคอมเมิร์ซและอี-มาร์เก็ตเพลส จำนวน 1.99 ล้านบาท คิดเป็น 10% บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายของล็อตแรก 10,000 กล่องยอดขายคิดเป็น 19.9 ล้านบาท โดย 1 กล่อง บรรจุ 20 แคปซูล ราคา 1,990 บาท และพร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ทางตัวแทนจำหน่ายอมาโด้, Amado Shopping Call Center 1451 หรือทาง LineOA: @amaprai และสินค้าล็อตต่อไปจะพร้อมจำหน่ายในเดือนมกราคม 2565 ซึ่งจนถึงไตรมาสแรกปี 2565 อมาโด้ตั้งเป้ามียอดขายจากอมาไพร น้ำมันเมล็ดกัญชง พลัส ถึง 120 ล้านบาท
ด้านนางสาวจง ซาน ฟั่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด กล่าวเสริมว่า “ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดได้ประเมินว่าปี 2564 ยอดขายตลาดสินค้าสมุนไพรของโลกจะมีมูลค่า 204,070 ล้านบาทในปี 2563 หรือมีอัตราการเติบโต (CAGR) คิดเป็น 5.9% ในปี 2563-2570 ถือว่ามีการเติบโตสูงสวยสถานการณ์โลกที่โดนผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 ผู้บริโภคจึงหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เป็นธรรมชาติและออแกนิกมากขึ้นจนเกิดกระแส Healthy Living สอดคล้องกับ อมาไพร น้ำมันเมล็ดกัญชง พลัส เป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติ 100% มีตราสัญลักษณ์ Vegan รับรอง ซึ่งแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของอมาโด้ได้พัฒนาสูตรให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง เพิ่มความหลากหลายของสินค้ากลุ่มสมุนไพรให้สามารถขยายฐานกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น ซึ่งเราคาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า แบรนด์อมาไพร คาดว่าจะแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาดได้ถึง 10% จากมูลค่าตลาดสินค้าสมุนไพรไทยและสมุนไพรจีนในไทยรวมกว่า 40,867 ล้านบาท”
“นอกจากนี้ จากภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากกัญชงโดยปี 2564 อุตสาหกรรมเครื่องดื่มที่มีกัญชงผสมจะมีมูลค่า 280 ล้านบาท คิดเป็น 46.6% รองมาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารจากกัญชง 240 ล้านบาทคิดเป็น 40% ยาและอาหารเสริมจากกัญชง 50 ล้านบาท คิดเป็น 8.3% เครื่องแต่งกายที่ทำด้วยใยกัญชง 30 ล้านบาทคิดเป็น 5% และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลประเมินว่ายังอยู่ในช่วงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นหลักในปีแรก ทั้งนี้ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวจะมีการนำกัญชงไปใช้มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท โดยอมาโด้ได้นำผลิตภัณฑ์ อมาไพร น้ำมันเมล็ดกัญชง พลัส ออกมาอย่าง
รวดเร็วและเป็นเจ้าแรกของตลาด คาดว่า 10,000 กล่องแรกจะสามารถแชร์ส่วนแบ่งการตลาดจากอุตสาหกรรมยาและอาหารเสริมจากกัญชงภายในสิ้นปีนี้ได้ และหลังจากหน่วยงานรัฐปลดล็อกใช้สารสกัด CBD เมื่อสิงหาคม เรายังมีแผนออกสินค้าในกลุ่มที่ใช้สารสกัด CBD ในอาหารเสริมด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคในอนาคต ดังนั้น อมาไพร จะเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจใหม่ให้ธุรกิจสามารถเติบโตและเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค เมื่อพูดถึงสมุนไพร จะนึกถึงแบรนด์อมาไพรเป็นแบรนด์แรก และในปีหน้าเราจะพัฒนาสินค้าใหม่ให้หลากหลายตอบโจทย์ “ธรรมชาติโภชนา” พร้อมต่อยอดการเติบโตของบริษัทในอนาคต” นายธนาตรัยฉัตร กล่าวทิ้งท้าย