วันนี้ (18 พ.ค.67) ที่สถานีเรือมุกดาหาร พล.ร.ต.นรินทร์ ชาวเจริญ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (ผบ.นรข.) มอบหมายให้ น.อ.ณฐพัฒน์ ชื่อมงคล รองผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (รอง ผบ.นรข.) เป็นผู้แทนในการแถลงข่าว พร้อมด้วย น.อ.วรรณะ เกี้อทิพย์ ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยดามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม (ผบ.นรข.นครพนม)
โดย น.ท.ศิริพงษ์ นพไธสง หัวหน้าสถานีเรือมุกตาหาร ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ในห้วงนี้จะมีกลุ่มบุคคลต้องสงสัยลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกตาหาร จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับสั่งการให้ชุดสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสถานีเรือมุกดาหาร และบูรณาการกับชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพเรือ ชุดปฏิบัติการพิเศษหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง และขุดปฏิบัติการข่าวหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เพื่อร่วมกันวางแผนและปฏิบัติการสกัดกั้นและจับกุม จึงได้จัดกำลังดักซุ่มเฝ้าตรวจอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร เพื่อฝ้าสังเกตการณ์ รวมถึงจัดวางกำลังตามเส้นทางคมนาคม ที่คาดผู้กระทำผิดจะใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี
จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.45 น. วันที่ 17 พ.ค.67 ชุดเฝ้าตรวจที่ริมตลิ่งแม่น้ำโขงได้พบรถยนต์ต้องสงสัยขับเข้ามาในพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำโขงที่เจ้าหน้าที่ที่ดักชุ่มอยู่ จึงสังเกตเห็นว่ามีการลำเลียงถุงกระสอบขึ้นรถ จำนวน 2 ถุง ขึ้นมาบนรถ เจ้าหน้าที่จึงได้ปิดระยะเข้าไปยังรถยนต์คันดังกล่าว แต่ขณะนั้นเอง รถก็ได้เคลื่อนที่ออกจากพื้นที่ริมฝั่งตลิ่งแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่ขุดเฝ้าตรวจริมฝั่งโขงจึงใด้แจ้งข้อมูลของรถตังกล่าวให้กับชุดที่วางกำลังตามเส้นทางคมนาคม เพื่อติดตามและค้นหารถคันดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่ชุดที่วางกำลังอยู่บนถนน จำนวน 2 คัน ได้ออกติดตาม และมาพบรถต้องสงสัยดังกล่าวบริเวณถนนหมายเลข 3010 ใกล้กับสี่แยก ต.หว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกตาหาร จึงได้ปิดระยะและเรียกรถดังกล่าวให้จอด พร้อมแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ นรข. เพื่อขอเข้าตรวจสอบ เมื่อรถหยุดเจ้าหน้าที่จึงได้ให้คนขับรถลงจากรถ พร้อมเข้าตรวจสอบรถดังกล่าว พบถุงกระสอบปุ๋ยสีน้ำเงิน จำนวน 6 กระสอบ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมทั้งสิ้นประมาณ 800,000 เม็ด จึงได้นำของกลางทั้งหมด ทำบันทึกการตรวจยึด เตรียมส่งพนักงานสอบสวน สภ.หว้านใหญ่ เพื่อดำเนินการกฎหมายต่อไป