วันนี้ (14 ก.ค.64) นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 13 กรกฎาคม 2564 เวลา 16.00 น.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 129 ราย หายป่วยเพิ่ม 58 ราย รวมยังมีผู้ต้องขังติดเชื้อที่อยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 1,954 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตติดต่อกันเป็นวันที่ 4
นายอายุตม์ เปิดเผยว่า จำนวนเรือนจำสีแดงและสีขาวในวันนี้ยังคงเดิมต่อเนื่อง คือ เรือนจำสีขาวไม่พบการระบาด 120 แห่ง และเรือนจำสีแดงที่พบการระบาด 13 แห่ง โดยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จากเรือนจำสีแดง 127 ราย และพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 2 ราย มีผู้ป่วยที่รักษาหายสะสม 35,639 ราย หรือ 94% ของผู้ติดเชื้อสะสม 37,925 ราย สำหรับผู้ต้องขังที่ยังรักษาตัวอยู่ เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว 71.9% สีเหลือง 27.7% และสีแดง 0.4% ผู้เสียชีวิตสะสม 47 ราย หรือ 0.1% ของผู้ติดเชื้อสะสม
นายอายุตม์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมสถานการณ์ ยังพบการติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการตรวจหาเชื้อตามรอบในกลุ่มเสี่ยงสูงของเรือนจำแพร่ระบาดเดิมเพื่อควบคุมโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข โดยเน้นค้นหา คัดแยก และรักษาผู้ติดเชื้อทุกรายอย่างรวดเร็วและเป็นระบบ นอกจากนี้คาดว่าจะมีผู้ต้องขังหายป่วยเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากต่อจากนี้ โดยเฉพาะจากผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวซึ่งจะหายได้เอง เมื่อได้รับการดูแลรักษาตามกระบวนการในระยะเวลาประมาณ 14 วัน ด้านมาตรการเพื่อเฝ้าระวังเชื้อจากภายนอก กรมราชทัณฑ์ยังคงดำเนินการอย่างเคร่งครัด ทั้งการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่ต้องสลับเวรแยกกันเป็นชุด มาตรการกักโรคและคัดกรองผู้ต้องขังรับใหม่ ที่ต้องเข้มข้นในทุกส่วน รวมถึงการเร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเรือนจำเพื่อรองรับการรักษาผู้ติดเชื้อ กรณีที่โรงพยาบาลภายนอกไม่สามารถรับผู้ติดเชื้อไปรักษาได้ ตลอดจนการลดความเสี่ยงในห้องแยกกักโรค เลี่ยงการสัมผัสกัน และแยกการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งผู้ช่วยเหลือออกจากแดนในอย่างเด็ดขาด
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง รวมเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ไปแล้วจำนวน 83,152 โดส จากการจัดสรรตามแผนและจากแหล่งอื่น รวม 97,044 โดส ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประสานไปยังกรมควบคุมโรค เพื่อขอรับการจัดสรรวัคซีนเพิ่มเติม เพื่อทยอยฉีดให้แก่ผู้ต้องขังกลุ่มอื่นๆ จนครอบคลุมทั้งหมด ตามแนวทางการฉีดวัคซีนของประชาชนทั่วไป