วันนี้ (8 ต.ค.64) กองทัพเรือ เปิดตัวทีมโฆษก ทร. อย่างเป็นทางการ นำโดย พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะ โฆษกกองทัพเรือ พร้อมทีมโฆษก ประกอบด้วย พลเรือตรี อนุวัต ดาผิวดี เลขานุการกองทัพเรือ เป็น รองโฆษกฯ พลเรือตรี อภิชาต วรภมร ฝ่ายเสนาธิการประจำกองบัญชาการกองทัพเรือ เป็น รองโฆษกฯ นาวาเอก ปารัช รัตนไชยพันธ์ ผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ เป็น ผู้ช่วยโฆษกฯ และ แพทย์จีน ปรียาดา บัวสมบุญ เป็น ผู้ช่วยโฆษกฯ ณ ห้องโพธิ์สามต้น หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
พลเรือโท ปกครอง กล่าวถึงเจตนารมณ์และนโยบายของ พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ประจำปีงบประมาณ 2565 ว่า เป็นการสานงานต่อเนื่อง จากนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือที่ผ่านมา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์กองทัพเรือ ตลอดจนรวมพลังขับเคลื่อนกองทัพเรือตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือระยะ 20 ปี ไปสู่การเป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเล ที่มีบทบาทนำในภูมิภาคและเป็นเลิศในการบริหารจัดการ และการส่งมอบคุณค่าให้แก่ประชาชนและสังคม และเป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ ด้วยการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ มีความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น นำพากองทัพเรือให้เจริญก้าวหน้า โดยเน้น ความสามัคคีปรองดอง เป็นพี่เป็นน้อง ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่ พร้อมย้ำผู้บังคับหน่วยต้องดูแลหน่วยและดูแลสวัสดิการกำลังพลชั้นผู้น้อย โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือ “รวมใจภักดิ์ รักษ์ชาติ ราษฎร์ศรัทธา”
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงอีกว่า นโยบายเร่งด่วนและสำคัญที่สุดที่ ผบ.ทร.ได้กำชับให้กับหน.หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ได้แก่
1.การพิทักษ์รักษา ปกป้องและเทิดทูน สถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างเต็มขีดความสามารถ ตลอดจนการสนับสนุนการดำเนินงานของ ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ในการดำเนินโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ”
2.การสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติ การพัฒนาประเทศ การบรรเทาภัยพิบัติและการช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อุทกภัยที่กำลังจะเกิดในขณะนี้ และ การควบคุมการแพร่ระบาดของ COVIC-19
3.การดูแล ขวัญ กำลังใจ ของกำลังพลกองทัพเรือ โดยเฉพาะกำลังพลชั้นผู้น้อย ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของ COVIC-19 การปรับปรุงที่พักอาศัย การสวัสดิการ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ ผบ.ทร.ได้มอบเจตนารมณ์ 10 ข้อ ได้แก่
1.พิทักษ์รักษา ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยให้ความสำคัญเร่งด่วนในการป้องกันและสนับสนุนการปราบปรามการกระทำที่ล่วงละเมิดต่อสาบันพระมหากษัตริย์ทุกรูปแบบ พร้อมน้อมนำประปฐมบรมราชโองการและพระบรมราโชบาย มาเป็นหลักสำคัญในการปฎิบัติงาน ตลอดจนการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ในโครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
2.ดำรงความพร้อมของกองทัพเรือ ดำเนินการทั้งการเตรียมองค์บุคคล องค์วัตถุ และยุทธวิธีให้พร้อมและเหมาะสมกับสถานการณ์ ในการดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ปฎิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ ด้วยความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น และสร้างการรับรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนได้รับทราบอย่างถูกต้อง
3.ดำรงความต่อเนื่องในความร่วมมือและความสัมพันธ์กับกองทัพเรือมิตรประเทศ นานาชาติ รวมถึงองค์การระหว่างประเทศ ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี อย่างสมดุล ภายใต้แนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” สร้างความสงบสันติ พัฒนาไปได้ โดยไม่หวาดระแวงกัน
4.สนับสนุนรัฐบาลในการพัฒนาประเทศและแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติ อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ตั้งแต่ในภาวะปกติ จนถึงภาวะวิกฤติ รวมถึงการบูรณากับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม องค์กรต่าง ๆ และภาคประชาชน
5.ป้องกัน รักษา และฟื้นฟู กำลังพลกองทัพเรือและครอบครัว ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVIC-19
6.ปลูกฝังกำลังพลกองทัพเรือ ให้มีสุขภาพแข็งแรง มีระเบียบวินัย และมีขวัญกำลังใจที่ดี ต้องส่งเสริมคนดีให้มีความเจริญก้าวหน้า ปลูกฝังอุดมการณ์ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีต่อ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และมีความภูมิใจในการเป็นทหารเรือ สำหรับผู้กระทำความผิด ต้องได้รับการลงโทษโดยไม่มีการละเว้น
7.ดำรงความต่อเนื่องเรื่องสวัสดิการบ้านพักข้าราชการกองทัพเรือ ให้มีความเพียงพอกับความต้องการทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
8.การจัดทำความต้องการและงบประมาณ การวางแผนงบประมาณและการจัดสรรงบประมาณ ต้องมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับสถานการณ์ เงินทุกบาททุกสตางค์ ได้มาจากภาษีของประชาชน ต้องใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์ต่อ กองทัพเรือ ประเทศชาติและประชาชนให้ได้มากที่สุด
9.ดำเนินการเชิงรุกในการสร้างการรับรู้ ทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้ กำลังพลกองทัพเรือ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ได้รับรู้ เข้าใจ และก้าวไปด้วยกัน
10.ส่งเสริมระบบงานวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมทางการทหารของกองทัพเรือ และรัฐวิสาหกิจในกำกับ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มุ่งไปสู่การพึ่งพาตนเอง และต่อยอดสู่สายการผลิตได้
ผบ.ทร. ได้เน้นย้ำ “การขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ ของทุกคน” ดังคำกล่าว “รวมใจภักดิ์ รักษ์ชาติ ราษฎร์ศรัทธา”