ผบ.ทร. ประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ สั่งเข้มงวดเฝ้าระวังและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย 

 

 

วันนี้ (25 ต.ค.64) พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานการประชุมหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ร่วมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือ หัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน โดยการประชุมในครั้งนี้ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยได้มีการตรวจ ATK เพื่อทำการคัดกรองผู้เข้าประชุม ก่อนเข้าร่วมการประชุม

พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า สำหรับวาระการประชุมในวันนี้ หัวข้อสำคัญที่ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มีการสั่งการในที่ประชุมคือ ให้กองกำลังป้องกันชายแดนทั้งทางบกและทางน้ำที่กองทัพเรือมีหน้าที่รับผิดชอบ ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายโดยเฉพาะการนำแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมือง การค้ายาเสพติด สินค้าหนีภาษี น้ำมันเถื่อน รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด

นอกจากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้ผู้บังคับหน่วยเน้นย้ำกำลังพลและครอบครัวเกี่ยวกับการใช้สื่อออนไลน์ การสร้างการรับรู้กรณีเฟคนิวส์ ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีการใช้สื่อออนไลน์ในการแสดงความคิดเห็นที่บิดเบือนข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่องทำให้สร้างความแตกแยกและขาดความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จที่ส่งผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่คนไทยเคารพเทิดทูน

โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ผู้บัญชาการทหารเรือ/รอง ผอ.ศรชล. ได้สั่งการให้หน่วยต่างๆ บูรณาการการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล โดยการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวดและหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด จะต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาดโดยไม่มีการละเว้น รวมทั้งให้ดำรงความต่อเนื่องในการกำกับดูแลหน่วยงานที่ดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลและการแก้ไขการทำการประมงผิดกฎหมาย รวมถึงการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อยกระดับการรายงานสถานการณ์ด้านการค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในส่วนของประเทศไทย จากปีที่ผ่านมาให้ปรับระดับขึ้นจากระดับบัญชี 2 กลุ่มประเทศเฝ้าระวัง (TIER2 WATCH LIST) ต่อไป

 

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เน้นย้ำกำลังพลทุกนายให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ มีความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น โดยเน้นความสามัคคีปรองดองเป็นสำคัญ 

 

Related posts