กองทัพเรือ ลุยช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ

พล.ร.ท.ชาติชาย ทองสะอาด รองเสนาธิการทหารเรือ สายงานกิจการพลเรือน / รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ ได้มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จึงได้สั่งการให้หน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ จัดกำลังพล เรือ รถ อุปกรณ์ เครื่องมือ และสิ่งของ ตลอดจนบูรณาการและประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้มีการสำรวจความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชน พร้อมทั้งติดตามการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ โดยในปัจจุบันได้ดำเนินการดังนี้

 

1. พื้นที่ฝั่งธนบุรี ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยฐานทัพเรือกรุงเทพ ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงและการระบายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบด้วย การจัดชุดเคลื่อนที่เร็วแจ้งเตือนไปยังชุมชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้รับทราบถึงสถานการณ์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นเพื่อเตรียมการรับมือ การจัดกำลังพลสนับสนุนสำนักงานเขตพื้นที่ต่างๆ ในการบรรจุกระสอบทราย วางแนวกระสอบทรายป้องกันน้ำ และการขนย้ายสิ่งของ ในพื้นที่ชุมชนต่างๆ รวมถึงเตรียมการป้องกันปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่โรงพยาบาลศิริราช และวัดอรุณราชวราราม

2. พื้นที่อำเภอพุทธมณฑล และอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม หน่วยบรรเทาสาธารณภัยกรมยุทธศึกษาทหารเรือ บูรณาการการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานราชการในพื้นที่ ในการเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้เกิดน้ำล้นคันกั้นน้ำ ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ประกอบด้วย การจัดกำลังพลสนับสนุนหน่วยงานราชการพื้นที่ในการบรรจุกระสอบทราย วางแนวกระสอบทรายป้องกันน้ำ การขนย้ายสิ่งของในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ตลอดจนร่วมกับกรมการสัตว์ทหารบก จัดทำกระสอบทรายเพิ่มเติมในการเสริมบริเวณเขื่อนกั้นน้ำในพื้นที่ อ.นครชัยศรี

3. พื้นที่จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 3 บูรณาการการปฏิบัติร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่เข้าช่วยเหลือประชาชน โดย จัดกำลังพลชุดเคลื่อนที่เร็ว 3 ชุด เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เมืองภูเก็ต รวมถึงโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และโรงเรียนสตรีภูเก็ต โดยดำเนินการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง ขนย้ายสิ่งของ การบรรจุกระสอบทราย การจัดรถครัวสนาม รวมทั้งได้จัดกำลังจาก หน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 591 เข้าช่วยเหลือในพื้นที่อำเภอถลาง ในส่วนของ จิตอาสาพระราชทานกองทัพเรือ กองร้อยกองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และกองพันรักษาฝั่งที่ 11 ได้ฟื้นฟูทำความสะอาดพื้นที่ถนน ขนย้ายประชาชน และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นกลับบ้านเรือน รวมทั้งสำรวจท่อระบายน้ำ ขุดลอก เจาะช่องระบายน้ำเพิ่มเติม และระบายน้ำในบางพื้นที่ที่ยังมีน้ำท่วมขัง

ด้าน หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเลกองทัพเรือเกาะหลีเป๊ะ สถานีเรือละงู และหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 ได้สนับสนุนการขนย้ายสิ่งของ จากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้ง จัดเตรียมกระสอบทรายในพื้นที่ของตำบลกำแพง อ.ละงู จ.สตูล และสนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ โรงพยาบาลกระบี่ ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่บ้านคลองบิน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่

4. พื้นที่จังหวัดระยอง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ได้จัดกำลังพลและยุทโธปกรณ์จากหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ฐานทัพเรือสัตหีบ และกองเรือยุทธการ เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ อ.บ้านฉาง และ อ.เมือง จ.ระยอง เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2565 ประกอบด้วย การบรรจุกระสอบทราย การวางแนวกระสอบทรายป้องกันน้ำ การขนย้ายสิ่งของ การเปิดทางระบายน้ำ รวมถึงการจัดกำลังพลทำความสะอาดฟื้นฟูสภาพหลังน้ำลด

5. พื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยฐานทัพเรือกรุงเทพ จัดกำลังพลพร้อมเรือท้องแบนสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ อ.พรหมบุรี และ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมน้ำ ประกอบด้วยการบรรจุกระสอบทราย การวางแนวกระสอบทราย การขนย้ายสิ่งของประชาชน การสนับสนุนการแจกจ่ายอาหาร น้ำดื่ม รวมทั้ง การแจกถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยได้ให้การช่วยเหลือตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

6. จังหวัดอุบลราชธานี ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง จัดกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ จากหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตอุบลราชธานี เข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ อ.ตาลสุม อ.ดอนมดแดง และ อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบจากจากสถานการณ์พายุโนรู ประกอบด้วย การรับส่งประชาชน การมอบถุงยังชีพ การแจกจ่ายอาหารน้ำดื่ม สิ่งของอุปโภคบริโภค การจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตรวจรักษาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

7. เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร หน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำอู่ทหารเรือธนบุรี จัดกำลังพล จำนวน 75 นาย ติดตั้งเรือผลักดันน้ำ จำนวน 24 ลำ ในพื้นที่เขตลาดกระบัง จำนวน 6 จุด เพื่อทำการผลักดันน้ำในคลองต่างๆ ในพื้นที่เพื่อระบายไปในช่องทางต่างๆ ที่จะออกไปสู่ทะเลเพื่อป้องกันไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน

8. จังหวัดสมุทรปราการ หน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า จัดกำลังพลจำนวน 44 นาย ติดตั้งเรือผลักดันน้ำจำนวน 12 ลำในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จำนวน 3 จุด เพื่อทำการผลักดันน้ำในคลองต่างๆ ในพื้นที่เพื่อระบายไปในช่องทางต่างๆ ที่จะออกไปสู่ทะเลต่อไป

9. จังหวัดนครนายก หน่วยเฉพาะกิจผลักดันน้ำอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า จัดกำลังพลจำนวน 72 นาย ติดตั้งเรือผลักดันน้ำจำนวน 20 ลำ เพื่อทำการผลักดันน้ำในคลองต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครนายกเพื่อระบายไปในช่องทางต่างๆ ที่จะออกไปสู่ทะเลต่อไป

10. จังหวัดอ่างทอง กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือ จัดกำลังพลชุดสำรวจคุณภาพน้ำและสิ่งแวดล้อม พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ป้องกันและการชำระล้างการปนเปื้อน เข้าปฏิบัติภารกิจร่วมเป็น “ชุดสำรวจและประเมินสถานการณ์ร่วมกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ” เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลือและบรรเทาความเสียหายอย่างเร่งด่วน กรณีฟาร์มเลี้ยงนกกระทาในพื้นที่ ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา

รองโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า การปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะรอไม่ได้ โดยกำลังพลกองทัพเรือทุกนายได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดต่อชีวิตของประชาชนและลดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งผลกระทบทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของประเทศ และจะดำรงความต่อเนื่องในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ เพราะเราคือ “กองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ The Trusted Navy”

Related posts