บริษัท คุมะ (ประเทศไทย) จำกัด รุกตลาดผลิตภัณฑ์กระดาษเช็ดทำความสะอาดเติบโตต่อเนื่องมีมูลค่ารวมมากกว่า 4,000 ล้านบาท “คุมะ ประเทศไทย” เตรียมแผนธุรกิจปี 2567 รุกขยายตลาดกลุ่มพรีเมียม นำสินค้าเข้าสู่ช่องทางโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศไทย รวมถึงส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV พร้อมชูเทคโนโลยีหนุนการผลิตสินค้าคุณภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เผยการลงทุนล่าสุด ทุ่มงบ 60 ล้านบาท สร้างตึกสำนักงานแห่งใหม่ มั่นใจปี 2566 ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระดาษเช็ดทำความสะอาดสูงถึง 110 ล้านชิ้น ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตมากกว่า 30% ปิดรายได้รวม 1,560 ล้านบาท
นายคมกริช ขจรวีรพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คุมะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์กระดาษเช็ดทำความสะอาด ภายใต้แบรนด์คุมะ (KUMA) เปิดเผยว่า ตลาดผลิตภัณฑ์กระดาษเช็ดทำความสะอาดมีการเติบโตต่อเนื่อง มูลค่ารวมมากกว่า 4,000 ล้านบาท ปัจจุบันตลาดกระดาษทิชชู่มีการแข่งขันกันค่อนข้างดุเดือด เรื่องราคาเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค เนื่องจากการนำเข้าสินค้าทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ทำให้มีสินค้ากระดาษทิชชู่ หลากหลายแบรนด์เข้ามาทำตลาดในราคาที่ถูก แต่ทาง คุมะ มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพเป็นอันดับแรก ตลอดจนตระหนักถึงการมีส่วยร่วมดูแลสังคมด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในปี 2565 ที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ ได้ทำการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรในการผลิตเป็นแบบ automation ทั้งระบบ ปรับกระบวนการผลิต ตามแบบมาตรฐานสากล ในทุกไลน์ผลิตภัณฑ์ทำให้กำลังการผลิตสูงขึ้นมากกว่า 1700 ตันต่อเดือน หรือกว่า 9 ล้านชิ้นต่อเดือน รวมถึงกระบวนการผลิตเนื้อเยื่อกระดาษที่ได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีคุณภาพ ทำให้มั่นใจได้ทั้งด้านคุณภาพสินค้าที่มีมาตรฐาน คุ้มค่า คุ้มราคา นอกจากนี้ สินค้ายังตอบโจทย์ความต้องการ ด้วยมีทั้งผลิตภัณฑ์ทิชชู่แห้ง ทิชชู่เปียก ทิชชู่เปียกสำหรับสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัย โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดและมียอดขายดี คือ ทิชชู่คุมะ 168 แผ่น รองลงมาเป็นทิชชู่เปียกฝาปิด 40 แผ่น และทิชชู่คุมะ 230 แผ่นตามลำดับ ซึ่งลูกค้าในครัวเรือนจะเป็นลูกค้าหลักอีกทั้งช่องทางจำหน่ายออนไลน์ที่เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ผ่าน Line My Shop @kumathailand, Shopee, Lazada, Tiktok และยังเพิ่มช่องทางขายออฟไลน์ ผ่านร้านขายส่ง ร้านค้าปลีก ห้างหรือซุปเปอร์สโตร์ท้องถิ่น ตลาดนัดชุมชนด้วย
สำหรับแผนดำเนินธุรกิจรองรับภายใน 3-5 ปี บริษัทฯ คาดว่ายังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ภายในปี 2567 นี้ บริษัทฯ มีแผนขยายตลาดกลุ่มพรีเมี่ยม นำสินค้าเข้าสู่ช่องทางโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศไทย เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าคนเมือง ขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น และเพิ่มช่องทางการส่งออกในกลุ่มประเทศ CLMV หรือ กัมพูชา ลาว เมียร์มาร์ และเวียดนาม ซึ่งสอดคล้องกับศักยภาพการผลิตที่มีการเตรียมรองรับการเติบโตมาแล้วตั้งแต่ปี 2565 อีกทั้งภายในปี 2567 นี้จะได้พบกับผลิตภัณฑ์ใหม่อีกหลายรายการ ซึ่งใช้เทคโลโลยีการผลิตแบบ Joint Embosser ที่ทำให้ได้เนื้อกระดาษที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทางคุมะ แต่ยังคงคงามหนานุ่มเหมือนเดิม จะช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายได้สูงขึ้นแน่นอน
ด้านนางสาวคุณวรพรรณ ขจรวีรพันธ์ กล่าวเสริมว่า เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ปัจจุบันบริษัทฯ มีการลงทุนสร้างตึกสำนักงานแห่งใหม่มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท สำหรับขยายงานบริหารจัดการ รองรับบุคลากรที่มากขึ้นในอนาคต รวมถึงได้นำระบบคลังสินค้า WMS (Warehouse Management System) มาใช้ดำเนินงานซึ่งมีความแม่นยำ สามารถลดต้นทุนการดำเนินงาน และเสริมประสิทธิภาพของงานมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังคงนำเสนอสินค้าใหม่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า เป็นกระดาษเช็ดทำความสะอาดกลิ่นหอมสดชื่น ขนาดพกพา และได้เชิญดาราสาวสุดฮอต “เบลล่า ราณี แคมเปน” เป็นพรีเซนเตอร์ทำงานโฆษณาและประชาสัมพันธ์ร่วมกันระยะเวลา 2 ปี ด้วยบุคลิกความน่ารัก สดใส ความเป็นกันเอง จะส่งต่อให้สินค้าได้รับความนิยม ทั้งนี้ ตั้งเป้าปี 2566 ยอดขายผลิตภัณฑ์กระดาษเช็ดทำความสะอาด จาก product hero top 3 ตามที่แจ้งไปจำนวนรวมกันสูงถึง 110 ล้านชิ้น สร้างรายได้รวม 1,560 ล้านบาท เติบโตขึ้น 30% จากรายได้รวมปี 2565 ที่ปิดยอดอยู่ที่ 1,240 ล้านบาท
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์กระดาษเช็ดทำความสะอาด หรือ ทิชชู่ แบรนด์คุมะ มีฐานการผลิตใน 3 ประเทศหลัก จีน อินโดนีเซีย และไทย โดยโรงงานผลิตที่ประเทศจีน จะผลิตทิชชู่เปียก 40 แผ่น, ทิชชู่เปียก 20 แผ่น, ทิชชู่เช็ดหน้า 168 แผ่น, ทิชชู่เช็ดหน้า 230 แผ่น, ทิชชู่พรีเมี่ยม ซอฟท์ 150 แผ่น, ทิชชู่ป๊อปอัพ ซุปเปอร์คุ้ม 210 แผ่น, ทิชชู่ลาลาแบร์ 336 แผ่น, ทิชชู่ลาลาแบร์ 170 แผ่น, ทิชชู่เปียก ลาลาแบร์ 65 แผ่น, ทิชชู่เปียกสัตว์เลี้ยง ส่วนโรงงานที่ประเทศอินโดนีเซีย ผลิตกระดาษทิชชู่อเนกประสงค์ Multi-Purpose towel 68 แผ่น และประเทศไทย ผลิตทิชชู่ม้วน Mega Roll ทิชชู่ม้วน lalabear โดย บริษัท คุมะ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 มีโรงงานผลิตบนพื้นที่ 13 ไร่ ในจังหวัดปทุมธานี